ชนิดของประตูเลื่อน

ประตูเลื่อนมี 2 แบบ คือ

 1.ประตูเลื่อนแบบแขวนที่รางด้านบน
 2. ประตูเลื่อนแบบใช้ล้อทิ้งน้ำหนักลงพื้น

         1.  ประตูแบบแขวน  จะเป็นประตูประเภทมีน้ำหนักเบา จึงนิยมแขวนไว้บนรางที่ยึดติดกับผนังหรือคาน

  •  ข้อดีคือ จะไม่มีการทรุดตัว ทำให้การเลื่อนของประตู ไม่ต้องใช้แรงมาก และเงียบ เหมาะกับการใช้ภายในอาคาร
  •  ข้อเสียคือ เมื่อมีน้ำหนักเบา จึง เปราะบางกว่า และความแข็งแรงของประตูมีน้อย ความปลอดภัยจึงลดลง

    2. ประตูแบบใช้ล้อทิ้งน้ำหนักลงพื้น จะเป็นประตูชนิดหนัก จึงจำเป็นต้องใช้ล้อเลื่อนบนรางที่พื้น ข้อดี/ข้อเสีย จะตรงกันข้ามกับแบบแขวน ดังนั้น ประตูชนิดนี้ จะต้องทำพื้นตรงรางประตูให้แข็งแรงอย่าให้พื้นทรุดตัวง่าย

            ส่วนการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ สั่งงานด้วยรีโมทหรือเซนเซอร์ เพื่อการเปิด/ปิดอัตโนมัตินั้น จึงต้องแบ่งประเภทออกตามชนิดของประตู ดังนี้

            -มอเตอร์ชนิดแรงบิดต่ำ เหมาะกับการใช้งานขับเคลื่อนกับประตูที่มีน้ำหนักเบา นิยมใช้มอเตอร์ประเภทใช้กระแสไฟตรง หรือ DC (ส่วนใหญ่จะเป็น 12 หรือ 24 โวลท์) มีความปลอดภัยค่อนข้างสูง เวลาประตูปิดถูกสิ่งกีดขวาง จะหยุดหรือถอยหลังเองอัตโนมัติ การทำงานเงียบ ควบคุมการเปิด/ปิดด้วยเซนเซอร์หรือรีโมท ซึ่งตอบสนองได้ดีและรวดเร็ว ใช้มอเตอร์ขนาดเล็ก ส่วนใหญ่ขับเคลื่อนด้วยสายพาน ตัวอย่างเช่น ประตูเปิด/ปิดอัตโนมัติตามสำนักงานหรือห้างสรรพสินค้า  แต่มีข้อเสียตรงที่ สามารถผลักเลื่อนประตูได้โดยใช้แรงไม่มาก  เมื่อปิดสวิทช์การทำงาน จึงต้องมีการล๊อคประตูเมื่อเลิกใช้งาน

           - มอเตอร์ชนิดแรงบิดสูง เหมาะกับการใช้งานขับเคลื่อนกับประตูที่มีน้ำหนัก นิยมใช้ประเภทไฟฟ้ากระแสสลับ หรือ  AC ซึ่งในประเทศไทย จะเป็น 220 โวลท์ (ชนิด 1 เฟส) และ 380 โวลท์ (ชนิด 3 เฟส) ในเมื่อมอเตอร์มีแรงบิดสูง ซึ่งส่วนใหญ่ขับเคลื่อนด้วยเฟืองทด (แบบสายพานก็มีแต่นิยมใช้น้อยเพราะว่าเปลืองเนื้อที่) จึงค่อนข้างมีอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ถ้าประมาทและไม่รู้จักการใช้งาน  โรงงานผลิตส่วนใหญ่ จึงผลิตอุปกรณ์เสริมเพื่อความปลอดภัย เช่น มีเซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว , สัญญาณเตือนด้วยเสียงหรือไฟแสงสว่างเมื่อมอเตอร์ทำงาน และ ระบบเปิดปิดแมนวลด้วยมือเมื่อเกิดเหตุขัดข้อง หรือไฟดับ


ขอบคุณเจ้าของข้อมูลดีๆ  นะคะ